Wednesday, October 08, 2008

เล่น Final Fantasy 12 จบแล้ว

(แก้ไข ใส่เนื้อเรื่องหน่อย กันลืม)
ต้องขอจดไว้ซะหน่อย นี่เป็นเกมส์ที่ผมใช้เวลาเล่นยาวนานที่สุดตั้งแต่เล่นเกมส์มา เวลาในเกมส์บอกว่าประมาณ 120 ชม.กว่าๆแล้ว แต่เวลาจริงๆที่เล่นคือประมาณปีกว่า นับว่าผมเองอึดใช่เล่นเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผมเองไม่ค่อยมีเวลามาเล่น (แก่แล้ว) แต่การเล่นเกมส์นานขนาดนี้ทำให้ผมได้มุมมองใหม่ๆหลายอย่างจากการเล่นเหมือนกัน

ขอพูดถึงเกมส์นี้ก่อน Final Fantasy 12 เป็นซีรียส์ล่าสุด (ในปัจจุบัน ตอนที่ FF13 ยังไม่ออก) เนื้อเรื่องให้บรรยากาศสไตล์ยุโรปยุคกลางผสม Mecha นิดหน่อยตามสไตล์ของไฟนอล บรรยากาศของเรื่องนี้ออกแนว Fantasy ค่อนข้างมาก ประมาณเดียวกับ FF9 แต่สไตล์ภาพดูขึงขังไม่เหมือน FF9 เนื้อหากล่าวถึงสงครามระหว่างสองมหาอำนาจ อาร์เคเดีย และโรซาเรียน ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศเล็กๆชื่อว่าดัลมัสก้าซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างสองประเทศพอดี ตัวเอกของเรื่องเป็นเจ้าหญิงแห่งดัลมัสก้าชื่อว่า แอช (Ashe ขอเรียกแบบนี้ตามเสียงพากย์นะ) ซึ่งต้องเสียสามีที่พึ่งแต่งงานกันหมาดๆไปกับสงครามยึดพื้นที่ของอาร์เคเดีย จนเธอต้องกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มต่อต้านเพื่อเรียกร้องเอกราชคืนจากอาร์เคเดีย แต่ตัวเรื่องนี้จะเล่าผ่านมุมมองของวาน (Vaan) โจรลักเล็กขโมยน้อยที่อาศัยอยู่ในราบานัสตรา เมืองหลวงเก่าของดัลมัสก้า วานเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามเพราะต้องสูญเสียพี่ชายไปจนต้องกลายมาเป็นโจร ตอนแรกๆคนจะนึกว่าวานเป็นพระเอก คือผมว่ามันก็เหมือนจะเป็นพระเอกอยู่หรอก แต่จริงๆแล้วเนื้อหาของเรื่องนี้มันเน้นที่แอชไม่ใช่วาน เนื่อหาของ FF12 ให้บรรยากาศที่คล้ายคลึงกับ Star wars มาก ทั้งเรื่องสงคราม หัวหน้ากลุ่มต่อต้านที่เป็นผู้หญิงและเจ้าหญิง บรรยากาศของ Mecha ในเรื่อง โดยเฉพาะตอนสุดท้ายเอฟเฟ็กเสียงเหมือนดู Star wars มาก โดยเฉพาะเสียงหายใจในหมวกของพวก Judge ยังกะ Darth Vader อ้อ ขาดไปแค่เจไดเนาะ แต่ฝ่ายอาร์เคเดียมีพวก Judge ก็คงคล้ายๆกับพวก Sith Lord แต่ Judge จริงๆก็เหมือนแม่ทัพเฉยๆน่ะแหละ บางคนก็เป็นคนดี บางคนก็ไม่ดี

แรกๆเนื้อหาของเรื่องจะเน้นไปที่การพยายามกู้เอกราชของแอช วานและเพื่อนสาวเพเนโล (Penelo) บังเอิญต้องไปช่วยเหลือแอช ร่วมกับบัลเธียร์ (Baltheir, ภาคญี่ปุ่นเรียก Balflea) และฟราน (Fran) สลัดอากาศที่บังเอิญต้องมาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องเริ่มซับซ้อนเมื่อแอชรู้ว่าจริงๆแล้วอาร์เคเดียจงใจจะไม่เจรจากับดัลมัสก้าและกะบุกยึดอยู่แล้ว โดยจัดฉากว่าทหารคนเก่งของดัลมัสก้าคือ บาช (Basch) ลอบปลงประชนม์กษัตริย์ของดัลมัสก้าเอง ระหว่างการเจรจาสงบศึก เพื่อทำให้ราชบังลังค์ดัลมัสก้าระส่ำระสาย แต่จริงๆแล้วเป็นพี่น้องฝาแฝดของบาช ชื่อโนอา (Noah) ซึ่งอยู่กับฝ่ายอาร์เคเดียเป็นคนจัดฉากตะหาก ไปๆมาๆบาชก็มาเป็นเพื่อน ครบ 6 คนพอดีจัดได้สองกลุ่ม ตรงนี้ผมว่าเป็นจุดด้อยของการเป็นเกมส์ คือพอมีเพื่อนครบทีมแล้ว มันก็จะมีเพื่อนเพิ่มไม่ได้ เพราะจะทำให้สับสนเรื่องการฝึกตัวละคร อัพเลเวลต่างๆ ทำให้เนื้อเรื่องของคนที่จะมาเป็นเพื่อนกลุ่มตัวเอกก็จะตันไป เกมส์นี้เลยมีระบบผู้ช่วย คือเป็นตัวละครประเภทควบคุมไม่ได้ แต่จะมาคอยช่วยตามเนื้อเรื่อง แต่ก็มีได้แค่ทีละคน ตรงนี้สมัย FF4 แก้โดยการยอมให้มีเพื่อนเพียบเลย เปลี่ยนไปมาตามเนื้อเรื่อง แต่ตัวละครก็จะไม่ค่อยต่อเนื่อง บางเกมส์อย่างซุยโคเดนก็เอาเป็นว่ามีเพื่อนได้โคตรเยอะเลย (108 คน เอาคนที่บังคับได้น่าจะราวๆ 40-50 คน) หรือภาคหลังๆของไฟนอลก็จะเป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 6-10 คน ไปเลย แต่ก็คือห้ามตาย เพื่อนไม่มีทางจากไปเด็ดขาด ไม่งั้นต้องมาคิดว่าจะถ่ายทอดเลเวลกับของกันยังไงให้ไม่ขัดเขิน ตรงนี้ผมว่าเป็นโจทย์ของการทำเนื้อเรื่องเกมส์ rpg สไตล์ญี่ปุ่นเหมือนกัน

พอเนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆก็ตามสูตรหนังสงครามแฝงปรัชญญานิดหน่อย ตามสไตล์ญี่ปุ่น ที่จะต้องมีการพูดถึงต้นเหตุของสงคราม หนทางหยุดสงคราม มนุษย์ไม่หยุดฆ่าฟันกันเองหรอก! อะไรพวกนี้ ซึ่งผมรู้สึกว่าพักหลังจะมาเยอะมากตาม anime เพียบไปหมดเลย สำหรับ FF12 แอชซึ่งจริงๆแล้วเป็นเจ้าหญิงที่ดูไม่ค่อยเป็นผู้นำเท่าไหร่ต้องผ่านการทดสอบทางใจหลายด่าน เพราะเธอเองไม่ได้เป็นคนที่อยากได้อำนาจ แต่การกู้เอกราชแน่นอนย่อมทำให้เกิดทั้งคนรักและคนเกลียด

เนื่องเรื่องมาขมวดปมตรงที่ว่าจริงๆแล้วในโลกมีชนเผ่าที่เป็นเหมือนเทพเจ้า เรียกว่าเผ่า อ็อกคูเรียน (Occurian สะกดยังงี้ป่าวหว่าจำบ่ได้) ซึ่งมีวิทยาการก้าวล้ำนำหน้าจัด เป็นคนคอยจัดฉากว่าใครจะได้เป็นคนปกครองโลก โดยเคยทำมาทีแล้วกับบรรพบุรุษของแอช ปรากฎว่าจริงๆแล้วทางตัวร้ายคือเวยน์ (Vayne) เจ้าชายของอาร์เคเดียผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด มีจุดประสงค์จริงๆคือจะครองโลก เพื่อต่อต้านการอยู๋เบื้องหลังของอ็อกคูเรียนด้วย โดยอาศัยความช่วยเหลือของเวนาท์ (Venat) ซึ่งเป็นเผ่าอ็อกคูเรียนที่ทรยศมา

พอเนื้อเรื่องมาเป็นงี้ก็เลยกลายเป็นว่าการกู้เอกราชสามารถจบได้แบบสมประโยชน์ เพราะทุกคนมีศัตรูคนเดียวกันนั่นเอง เพียงแต่เวยน์เองก็ดูเหมือนจะอยากได้อำนาจด้วย สุดท้ายแอชซึ่งได้รับเลือกจากอ็อกคูเรียนให้ถือครอง Nethicite ซึ่งเป็นศิลาเวทย์มนตร์ที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก (ประมาณว่าเป็นนิวเคลียร์ว่างั้น) ตัดสินใจไม่ใช้ Nethicite และยอมทำลายต้นกำเนิดของ Nethicite ทิ้งเพื่อไม่ให้มีอาวุธอันตรายเช่นนี้เหลืออีก และสุดท้ายแอชและผองเพื่อนก็ร่วมกันบุกไปจัดการกับเวยน์ที่เกิดกู่ไม่กลับ อยากจะครองโลกจัด จนชนะและก็เกิดความสงบสุข แอชกลับไปครองดัลมัสก้า ส่วนอาร์เคเดียปกครองต่อโดยลาร์ซ่า (Larsa) ตัวละครที่มาเป็นเพื่อน NPC ช่วงหนึ่ง และเป็นน้องชายของเวยน์ ทุกคนก็แยกย้ายกลับไปดำรงชีวิตอย่างมีความสุข

เนื้อเรื่องตอนท้ายๆตรงเวยน์นี่ผมงงๆนิดหนึ่งว่าทำไมมันจะต้องดันทุรังยึดโลกต่อด้วย ทั้งๆที่แอชเองก็ตัดสินใจหันหลังให้กัลเผ่าอ็อกคูเรียน แต่คล้ายๆกับว่าเวยน์พยายามจะยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำมาจนถึงที่สุดก็เท่านั้น อีกส่วนหนึ่งคงเพราะนี่มันเป็นเกมส์ ต้องมีบอสตัวสุดท้าย ถ้าเกมส์จบแบบว่าทุกฝ่ายลงเอยกัน จับมือกัน เย้ จบ ก็คงหมดสนุก (ของเกมส์) เวยน์เลยซวยไปต้องมาเป็นบอสตัวสุดท้าย และบอสตัวสุดท้ายก็ต้องตัวใหญ่ๆ บินได้ ดูแล้วน่าเกรงขามไปพร้อมๆกัน ก็เลยเหมือนกลายเป็นว่าเวยน์โดนมารเข้าสิงยังไงไม่รู้

เนื้อเรื่องไม่ได้พูดถึงอ็อกคูเรียนต่อเลยนอกจากเวนาท์ที่เหมือนจะไปพร้อมกับเวยน์ จริงๆแล้วเผ่านี้ก็ยังอยู่ ก็งงว่าแล้วทำไมไม่ส่งใครมาลงโทษแอชเลยหว่า

ในส่วนของเกมส์นี้โดยรวมๆ นี่เป็นเกมส์ที่ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงพอสมควร จากข้อดีอะไรหลายๆอย่างในเกมส์ เช่น ระบบต่อสู้แบบใหม่ (เข้าใจว่ามาจากภาคออนไลน์ FF11) กราฟิกแบบใหม่ๆ เป็นภาคแรกที่ไม่มีการตัดฉากต่อสู้เลย สู้มันบน field เลย ซึ่งผมคิดว่าดีมากๆ แต่จุดที่ผมไม่ชอบก็คือระบบการเก็บไอเทมที่ยากมาก (เพราะของในหีบสมบัติมัน random) หรือการต้องมานั่งเก็บของจากมอนสเตอร์มาสร้างเป็นอาวุธ ซึ่งผมว่าดีนะแต่ของสุดยอดๆนี่เก็บยากมากๆ ประมาณว่าต้องเก็บของหายากชุดนึง เพื่อมาสร้างเป็นของอีกชุด เพื่อเอาไปสร้างเป็นอาวุธ เข้าใจว่าระบบพวกนี้มันส่งมาจากเกมส์ออนไลน์ ที่ออกแบบพวกนี้มาเพื่อดูดเวลาในการเล่นเกมส์จากคนเล่นไป และเนื่องจากผมไม่ค่อยมีเวลาเล่นเกมส์นี้ ระบบพวกนี้เลยกลายเป็นจุดเสียใหญ่ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับเกมส์ภาคนี้เลย ยิ่งผมเป็นพวกชอบเล่นจบแบบสมบูรณ์สุดๆ (ตั้งแต่ ff4 มาแล้ว ผมคิดว่าผมเล่นสมบูรณ์มาทุกภาคนะ) ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ต้องยอมแพ้ ไม่ได้ไปปราบบอสลับ อาวุธสุดยอด อะไรทั้งหลายแหล่จนหมด เพราะไม่ไหวจริงๆ จริงๆเป็นเพราะเหมือนเจ้า ps2 ทำท่าจะพังๆด้วย ผมเลยรีบๆเล่นจบก่อนเครื่องพัง

สรุปแล้วความรู้สึกที่มีต่อเกมส์นี้ค่อนข้างเฉยๆ ตอนแรกๆดูดีมาก เล่นๆไปแล้วเออ ก็สนุกดีนะ แต่ตอนท้ายๆพอพยายามให้สมบูรณ์แล้วเสียเวลาจัดมาก ในส่วนของเนื้อเรื่อง ช่วงหลังๆของเกมส์ก็ดาวน์ๆลงมา เนื้อเรื่องทั้งหมดดูแล้วเหมือนแค่เป็นส่วนเสี้ยวของมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ แต่เนื่องจากมันไม่ได้มีภาคต่อ (จริงๆแล้วมี Revenant wing แต่ดูเหมือนภาคพิเศษมากกว่า) เป็นหลักเป็นแหล่ง ก็เลยเหมือนว่าสิ่งดีๆของมหากาพย์เรื่องนี้กลับไม่ได้รับการถ่ายทอดเท่าที่ควร เนื้อเรื่องของวาน ซึ่งตอนแรกดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแอช สุดท้ายก็ไม่มีอะไร ก็คือวานกับเพเนโลก็คือเด็กในเมืองธรรมดา บาชซึ่งเหมือนจะมีความหลังก่อนมาเป็นทหารของดัลมัสก้าก็ไม่มีอะไร แทบไม่ได้พูดถึง บัลเธียร์ซึ่งจริงๆเป็นลูกของซิดก็สรุปแล้วคือเป็นลูกของซิด แต่ไม่ชอบพ่อเลยแอบไปพาชนเผ่า Viera หญิง (Fran) มาหนีตามกันไปก็แค่นั้น การถ่ายทอดเรื่องราวความหลังของตัวละครผมว่าค่อนข้างน้อยมาก อ้อ ภาคนี้ตัวละครชื่อซิด (Cid) เป็นฝ่ายผู้ร้ายด้วย เป็นอะไรที่แปลกพอสมควรสำหรับ Final Fantasy

แต่ก็เป็นธรรมดาของเกมส์ rpg อ่ะนะ ผมพบว่าเกือบทุกเกมส์มันจะหลุดๆในส่วนเนื้อเรื่อง เพราะไม่งั้นอาจจะทำให้เกมส์ไม่สนุก แต่ถ้าทำดีๆก็ออกมาดีได้นะ ผมประทับใจกับ FF10 มาก เพราะทำเนื้อเรื่องลงตัว สานกับระบบของเกมส์ได้ดีกว่า หวังว่า FF13 จะออกมาดีเหมือน FF10 นะ

ที่แปลกอีกอย่างคือมนต์อสูร ซึ่งภาคนี้เรียกว่า Esper ภาคนี้มนต์อสูรทั้งหมด มาจากพวกบอสเก่าๆ หรือตัวละครฝ่ายผู้ร้ายของ Final Fantasy เก่าๆทั้งหมด แทนที่จะเป็นซีรียส์ บาฮามูท ลิเวียธาน ฯลฯ เหมือนเดิม ส่วนชื่อพวกมนต์อสูรเก่าๆกลับกลายไปเป็นแค่ชื่อเรือเหาะของฝ่ายอาร์เคเดียไปหมด ตัวอย่างของมนต์อสูรที่ผมจำได้จากภาคเก่าก็เช่น Zeromus (บอสภาค FF4) Exodus (เห็นว่าภาคญี่ปุ่นใช้ชื่อว่าเอ็กซ์เดธ บอส FF5) Chaos (บอส FF9 กับ FF1) ระบบมนต์อสูรผมว่าทำได้ไม่ค่อยดี คือไอเดียดีแล้วที่ให้ออกมาเดินกับคนเลย แล้วก็ attack ธรรมดาได้ ตรงนี้เหมือนๆกับ FF10 แต่ปัญหาคือ คุมการขยับไม่ได้ เป็นเหมือน NPC ไปหมด (ตรงนี้จริงๆนับเป็นฟีเจอร์แบบนึงของเกมส์นี้ด้วย เพราะจงใจให้ผู้เล่นต้องเดาว่าทำยังไง Esper ถึงจะใช้ท่าสุดยอด) ปัญหาคือภาคนี้จะเน้นการต่อสู้แบบรุมมาก (เหมือนเกมส์ออนไลน์) แต่เรียก Esper ออกมาแล้วเพื่อนจะหายหมด เหลือแค่คนเรียกกับตัว Esper เอง ทำให้โดนรุมได้ง่าย แถมเวลาเรียกมาสู้บอสก็คุมท่าสุดยอดไม่ได้ ทำให้เวลาเจอบอสที่เก่งจัดๆ (อัดทีสองทีก็ไปแล้ว) อาจจะหายไปก่อนจะได้ใช้ท่าสุดยอด อันนี้ใน FF10 ก็เป็น แต่ใน FF10 เราควบคุม Aeon ได้เต็มที่ ช่วงหลังๆของเกมส์เลยเหมือนจงใจเรียกมาให้ใช้ท่าสุดยอด (กับกันการโจมตีจากศัตรู) มากกว่า สาเหตุอีกประการคือระบบการใช้เวทย์มนตร์ รวมไปถึงท่าสุดยอดของ Esper ที่ดูเหมือนเกมส์จะกันไว้ให้เวทย์ใหญ่ใช้ได้ทีละคน (รวมศัตรูด้วย) คงเพราะข้อจำกัดว่าไม่งั้นภาพเอฟเฟ็กคงมั่วพิลึก แต่กลายเป็นช่องโหว่ว่าระหว่างที่มีคนใช้ท่าใหญ่ ถ้าเราโจมตีธรรมดาๆจะอัดได้หลายทีเลย การใช้ท่าสุดยอดของ Esper ที่เสียเวลาแถมต้องเสี่ยง ก็เลยเป็นอะไรที่ไม่ค่อยคุ้มเท่าใช้หลายๆคนอัดด้วยอาวุธแรงๆไปเรื่อยๆนัก (จริงๆตรงนี้ FF10 ก็เป็นเหมือนกัน แต่เป็นเฉพาะถ้าขุนตัวละครจนเก่งสุดยอดเพื่อไปปราบบอสลับ ถ้าเล่นตามปกติก็น่าจะไม่เป็นแบบนี้)

ว่าแล้วก็กะจะไปเล่นต่อให้ชนะ Zodiark เอ หรือเอาจนชนะ Omega ดี คงไม่ไหวแน่ แค่นี้ก็ซัดไปร้อยกว่าชม. แล้ว แค่พยายามจะผสมเอาดาบ Tournesol เล่มเดียวก็กินเวลาไปมากโข

สงสัยสุดท้ายก็ไม่ได้เล่นต่อ ว่าแล้วก็เตรียมเล่นอย่างอื่นต่อแทนดีกว่า อ๊ะๆแต่ ps2 จะพังก่อนไหมเนี่ย